เมื่อวันที่ 14 มี.ค.55 นางศิริพร กิจเกื้อกูล เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) เปิดเผยถึงกรณีที่นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการบรรจุแต่งตั้งผู้ที่สอบขึ้นบัญชีค้างประมาณ 10,000 กว่า คน ให้เป็นครูผู้ช่วย ก่อนที่จะเปิดสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย ประจำปี 2555 เพื่อไม่ เสียสิทธิเนื่องจากบัญชีจะถูกยกเลิกว่า เดิมจะมีการนำเรื่องเข้าหารือในที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา(อ.ก.ค.ศ.)ระบบ วันที่ 14 มี.ค. แต่มีการเลื่อนการประชุมออกไปเป็นวันที่ 21 มี.ค.แทน ซึ่งสำนักงาน ก.ค.ศ. จะนำเสนอให้มีการเปิดสอบแข่งขันในสาขาวิชาที่ไม่มีการประกาศขึ้นบัญชีไว้ หลังจากที่มีการทยอยบรรจุ และแต่งตั้งผู้ที่สอบขึ้นบัญชีเดิมไปแล้ว และคาดว่าอาจจะดำเนินการรับสมัครและสอบแข่งขันได้ประมาณเดือน มิ.ย.นี้ แต่จะเปิดสอบในสาขาใดบ้างนั้น ก็คงต้องรอข้อมูลของหน่วยงานที่สถานศึกษาในสังกัด เช่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ว่าจะมีสาขาวิชาใดบ้างที่จะเปิดสอบบ้าง ส่วนแนวทางอื่นๆ ก็คงเป็นไปตามนโยบายของนายสุชาติ อาทิ ให้ส่วนกลางเป็นผู้จัดสอบ สอบเฉพาะปรนัยไม่มีสอบสัมภาษณ์ เป็นต้น
เลขาธิการ ก.ค.ศ. กล่าวต่อไปว่า ส่วนความคืบหน้าหลังจากที่ประชุม ก.ค.ศ.ที่นายสุชาติ เป็นประธานได้มีมติ เห็นชอบร่างหลักเกณฑ์ และวิธีการสรรหาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ ดำรงตำแหน่ง ผอ.และรอง ผอ.สถานศึกษา ใหม่ ขณะนี้ได้จัดทำรายละเอียด ต่างๆ ของร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าวเสร็จแล้ว และได้เสนอไปที่ สพฐ.เพื่อให้ดำเนินการกำหนดวันรับสมัครและสอบคัดเลือกต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ อาทิ แบ่งการคัดสอบคัดเลือก 2 กลุ่มคือ กลุ่มทั่วไป และกลุ่มประสบการณ์ ผู้สมัครสามารถเลือกเขตพื้นที่ฯ ที่ต้องการสมัครแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งได้ 5แห่ง การสอบเป็นข้อเขียนแบบปรนัย ผู้ที่จะผ่านการสรรหาต้องได้คะแนนรวมไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 โดย เรียงลำดับคะแนนจากมากไปหาน้อย ในกรณีที่ได้คะแนนเท่ากันจะให้พิจารณาในคะแนนส่วนย่อยๆ เช่น กลุ่มทั่วไป ให้พิจารณาผู้ที่มีความสามารถการบริหารงานในหน้าที่ ที่สูงกว่า ส่วนกลุ่มประสบการณ์ ให้พิจารณาผู้ที่มีคะแนนประวัติและผลงานสูงกว่า
ส่วน คุณสมบัติผู้ที่มีสิทธิสมัครนั้น ที่ประชุม ก.ค.ศ.ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมาก อย่างกลุ่มทั่วไป ตำแหน่ง รอง ผอ.สถานศึกษา ต้องเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มีวุฒิไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรีทางการศึกษา หรือทางอื่นที่ ก.ค.ศ.กำหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนี้ ดำรงตำแหน่งครู มาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปี สำหรับวุฒิปริญญาตรี และ 2 ปี สำหรับวุฒิปริญญาโท รวมทั้งต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา เป็นต้น โดยรายละเอียดทั้งหมดนี้จะแจ้งให้ทราบต่อไป
เลขาธิการ ก.ค.ศ. กล่าวต่อไปว่า ส่วนความคืบหน้าหลังจากที่ประชุม ก.ค.ศ.ที่นายสุชาติ เป็นประธานได้มีมติ เห็นชอบร่างหลักเกณฑ์ และวิธีการสรรหาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ ดำรงตำแหน่ง ผอ.และรอง ผอ.สถานศึกษา ใหม่ ขณะนี้ได้จัดทำรายละเอียด ต่างๆ ของร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าวเสร็จแล้ว และได้เสนอไปที่ สพฐ.เพื่อให้ดำเนินการกำหนดวันรับสมัครและสอบคัดเลือกต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ อาทิ แบ่งการคัดสอบคัดเลือก 2 กลุ่มคือ กลุ่มทั่วไป และกลุ่มประสบการณ์ ผู้สมัครสามารถเลือกเขตพื้นที่ฯ ที่ต้องการสมัครแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งได้ 5แห่ง การสอบเป็นข้อเขียนแบบปรนัย ผู้ที่จะผ่านการสรรหาต้องได้คะแนนรวมไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 โดย เรียงลำดับคะแนนจากมากไปหาน้อย ในกรณีที่ได้คะแนนเท่ากันจะให้พิจารณาในคะแนนส่วนย่อยๆ เช่น กลุ่มทั่วไป ให้พิจารณาผู้ที่มีความสามารถการบริหารงานในหน้าที่ ที่สูงกว่า ส่วนกลุ่มประสบการณ์ ให้พิจารณาผู้ที่มีคะแนนประวัติและผลงานสูงกว่า
ส่วน คุณสมบัติผู้ที่มีสิทธิสมัครนั้น ที่ประชุม ก.ค.ศ.ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมาก อย่างกลุ่มทั่วไป ตำแหน่ง รอง ผอ.สถานศึกษา ต้องเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มีวุฒิไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรีทางการศึกษา หรือทางอื่นที่ ก.ค.ศ.กำหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งนี้ ดำรงตำแหน่งครู มาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปี สำหรับวุฒิปริญญาตรี และ 2 ปี สำหรับวุฒิปริญญาโท รวมทั้งต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา เป็นต้น โดยรายละเอียดทั้งหมดนี้จะแจ้งให้ทราบต่อไป
ขอบคุณ สยามรัฐ
แนวข้อสอบกพ2555 ---> แนวข้อสอบกพ2555พร้อมเฉลย รวมพลคนสอบครู 2555 รวมพลคนสอบบรรจุครู 2555