ใช้คำประพันธ์ต่อไปนี้ตอบคำถามข้อ 70 -71
ก. สองเนตรคือดา ระกะในนภาศรี
ข. งามเนตรพินิจปาน สุมณีมะโนหะรา
ค. สองเนตรงามกว่ามฤคิน นางนี้เป็นปิ่นโลกา
ง. งามเนตรดั่งเนตรมฤคมาศ งามขนงวงวาดดังคันศิลป์
70. คำประพันธ์ข้างต้นนี้มีความเปรียบรวมกี่แห่ง
1) 4 แห่ง 2) 5 แห่ง 3) 6 แห่ง 4) 7 แห่ง
71. คำประพันธ์ข้างต้นข้อใดมีเนื้อหาของการเปรียบเทียบตรงกับคำประพันธ์ที่ขีดเส้นใต้
? มธุรสโอษฐ์ชะอ้อนประอรเอียง ดาลเผดียงดาเรศเนตรอนงค์ ?
1) ข้อ ก. 2) ข้อ ข. 3) ข้อ ค. 4) ข้อ ง.
72. ข้อความต่อไปนี้ถ้าเขียนแยกวรรคให้ถูกต้องจะเป็นประพันธ์ตรงตามข้อใด
? พิเศษสารเสกสร้างรังสรรค์สารประจงจารฉันทภาคพริ้งพรายฉายเฉกเพชรพรรณเพราเฉิดเลิศแลลายระยับสายสะอิ้ง
ส่องสร้อยกรองทรวง?
1) โคลงสี่สุภาพและกลอนสุภาพ
2) กาพย์ยานี 11 และโคลงสี่สุภาพ
3) กาพย์ฉบัง 16 และกลอนสุภาพ
4) กาพย์ยานี 11 และกาพย์ฉบัง 16
73.คำประพันธ์ต่อนี้ข้อใดมีวิธีการพรรณนาต่างจากข้ออื่น
1) พื้นผนังหลังบัวที่ฐานปัทม์ เป็นครุฑอันยืนเหยียบภุชงค์ขยำ
2) หยิกขยุ้มกุมวาสุกรีกรำ กินนรรำร่ายเทพประนมกร
3) ใบระกาหน้าบันบนชั้นมุข สุวรรณสุกเลื่อมแก้วประภัสสร
4) ดูยอดเยี่ยมเทียมยอดยุคุนธร กระจังซ้อนแซมใบระกาบัง
74. คำประพันธ์ต่อไปนี้ใช้ภาพพจน์ตามข้อใด
? ฉันมองคลื่นรื่นเร่เข้าเห่ฝั่ง พร่ำฝากฝังภักดีไม่มีสอง
มองดาวเฟี้ยมเยี่ยมพักตร์ลักษณ์ลำยอง จากคันฉ่องชลาลัยใสสะอาง?
1) บุคคลวัตและอุปลักษณ์ 2) สัญลักษณ์และอติพจน์
3) บุคคลวัตและสัญลักษณ์ 4) อุปลักษณ์และอติพจน์
75. พรรณนาเสียงในข้อใดให้อารมณ์ต่างจากข้ออื่น
1) เสียงสกุณาร้องก้องกึกให้หวั่นหวาด
2) เสียงชะนีร้องอยู่โหวยโวยโว่ยวิเวกวะหวามอก
3) ทั้งพญาคชสารชาติฉัททันต์ทะลึ่งถลันร้องวะแหวๆ
4) ทั้งพญาพาฬมฤคราชเสือโคร่งคะครางครึ้มกระหึมเสียง
ใช้คำประพันธ์ต่อไปนี้ตอบคำถาม 76-77
ก.แรงรักแรงราคร้อน รนสมร
ยยิ่งเปลวไฟฟอน หมื่นไหม้
ข.พี่หวังพบบมิพบและพบทุกขคือไฟ
ตัวตายดีกว่าไกล อนุช
ค.เจ้ามาหรือมิ่งวิมลสมร อย่าซ่อนองค์อยู่เลยยอดสงสาร
ฟังไปใช่เสียงเยาวมาลย์ อุราร้อนปิ้มปานเพลิงกัลป์
ง. รูปนวยเชิญช่วยชีวิตไว้ จงดับไฟร้อนรุมสุมขอน
ซึ่งไหม้จิตต์เป็นนิจนิรันดร ให้พี่คลายร้อนรำคาญ
76. ความเปรียบในข้อใดแสดงอารมณ์รุนแรงน้อยที่สุด
1) ข้อ ก. 2) ข้อ ข. 3) ข้อ ค. 4) ข้อ ง.
77. ข้อใดใช้ภาพพจน์ตรงกับคำประพันธ์ต่อไปนี้
? น้องท้าวสดับสารภูธร เพียงพิศม์ไฟฟอน มารุมระงมกลางใจ ?
1) ข้อ ก. 2) ข้อ ข. 3) ข้อ ค. 4) ข้อ ง.
78. ข้อความในวรรณนากาลามสูตรที่ว่า ? อโลภะ อโทสะ อโมหะ เกิดขึ้นเพื่อประโยชน์แท้ ? นั้นไม่ก่อให้เกิดผลตามข้อใด
1) ได้รับการสรรเสริญจากวิญญูชน
2) สกัดกั้นผลชั่วที่สร้างทุกข์ทางใจ
3) ลดผลของกรรมที่ทำมาในอดีต
4) ได้รับประโยชน์และความสุขความเจริญ
79. ข้อใดเป็นปฏิบัติตามหลักกาลามสูตร
1) แดงงดการเดินทางในวันที่เกิดจันทรคราส
2) แดงไม่เลือกผู้สมัครที่มีใบปลิวโจมตีว่าทุจริต
3) แดงเปลี่ยนศาสนาตามคำชักชวนของเพื่อนสนิท
4) แดงศึกษาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในการทำรายงาน
ใช้คำประพันธ์ต่อไปนี้ตอบคำถามข้อ 80 - 81
ก. ถึงสามโคกโศกถวิลถึงปิ่นเกล้า พระพุทธเจ้าหลวงบำรุงซึ่งกรุงศรี
ประธานนามสามโคกเป็นเมืองตรี ชื่อประทุมธานีเพราะมีบัว
ข. พฤกษาสวนล้วนได้ฤดูดอก ตระหง่านงอกริมกระแสแลสล้าง
กล้วยระกำอัมภาพฤกษาปราง ต้องน้ำค้างช่อชุ่มเป็นพุ่มพวง
ค. ที่ท้ายบ้านศาลเจ้าของชาวบ้าน บวงสรวงศาลเจ้าผีบายศรีตั้ง
เห็นคนทรงปลงจิตนิจจัง ให้คนทั้งปวงหลงลงอบาย
ง. ถึงบ้านงิ้วเห็นแต่งิ้วละลิ่วสูง ไม่มีฝูงสัตว์สิงกิ่งพฤกษา
ด้วยหนามดกรกดาษระดะตา นึกก็หน้ากลัวหนามขามขามใจ
80. คำประพันธ์ในข้อใดไม่เป็น ? กระจกส่องภาพทางวรรณธรรม?
1) ข้อ ก. 2) ข้อ ข. 3) ข้อ ค. 4) ข้อ ง.
81. ข้อใดไม่แสดงอารมณ์ของผู้ประพันธ์
1) ข้อ ก. 2) ข้อ ข. 3) ข้อ ค. 4) ข้อ ง.
##################################
เฉลย ด้านล่างเลยครับ
70. ตอบ 3 6 แห่ง
- มีความเปรียบ 6 แห่ง คือ
ข้อ ก มีเปรียบตรง ?คือ?
ข้อ ข มีเปรียบตรง ?ปาน?
ข้อ ค มีเปรียบตรง ? กว่า? กับ ?เป็น?
ข้อ ง มีเปรียบตรง ?ดัง? กับ ?ดัง?
71. ตอบ 1 ข้อ ก.
- ตรงที่ขีดเส้นใต้เปรียบตาผู้หญิงเหมือน ?ดาเรศ? คือ ดวงดาว จึงตรงกับข้อ 1 มากที่สุด (เพราะเปรียบตากับ
? ดวงดาว?เหมือนกัน)
- ข้อ 1 เปรียบตากับ ?ดาระกา? = ?ดวงดาว?
- ข้อ 2 เปรียบตากับ ?สุมณี? = ?มณี?
- ข้อ 3 เปรียบตากับ ?มฤคิน? = ?ตาของกวาง?
- ข้อ 4 เปรียบตากับ ?มฤคมาศ? = ?ตาของกวางทอง?
72. ตอบ 1 โคลงสี่สุภาพและกลอนสุภาพ
- เราแยกข้อความที่เค้ายกมาเป็นคำประพันธ์ได้ 2 ชนิด ดังนี้
1. โคลง 4 สุภาพ
พิเศษสารเสกสร้าง รังสรรค์
สารประจงจารฉัน- ทภาคพริ้ง
พรายฉายเฉกเพชรพรรณ เพราเฉิด เลิศแล
ลายระยับสายสะอิ้ง ส่องสร้อยกรองทรวง
2. กลอนสุภาพ (กลอนแปด)
เศษสารเสกสร้างรังสรรค์สาร ประจงจารฉันทภาคพริ้งพรายฉาย
แกเพชรพรรณเพราเฉิดเลิศแลลาย ระยับสายสะอิ้งส่องสร้อยกรองทรวง
73. ตอบ 4 ดูยอดเยี่ยมเทียมยอดยุคุนธร กระจังซ้อมแซมใบระกาบัง
- ทั้งนี้เพราะข้อ 1,2,3 เป็นการพรรณนาแบบตรงๆไม่มีการเปรียบเทียบ
ข้อ 1 พรรณนาว่า ?ฐานรูปบัวมีรูปครุฑยุดนาค?
ข้อ 2 พรรณนาว่า ?มีรูปครุฑยุดนาค กินนรรำ และเทพนม?
ข้อ 3 พรรณนาว่า ?ภาพใบระกาหน้าบันบนชั้นมุข?
ข้อ 4 ต่างกับข้ออื่น เพราะเขียนแบบเปรียบเทียบ(ใช้ภาพพจน์) สังเกตจากคำว่า?เทียม? (เหมือน)
74. ตอบ 1 บุคคลวัตและอุปลักษณ์
- บุคคลวัต สังเกตจาก ?คลื่นรื่นเร่, เห่, พร่ำฝากฝัง? กับ ?ดาวเยี่ยมพักตร์ (เยี่ยมหน้า)?
- อุปลักษณ์ เห็นจาก ?คันฉ่องชลาลัย? คือ เปรียบชลาลัย (สายน้ำ) กับ ?คันฉ่อง? (กระจก)
โดยละคำเปรียบไว้ ซึ่งเป็นการเปรียบแบบอุปลักษณ์
75. ตอบ 3 ทั้งพญาคชสารชาติฉัททันต์ทะลึ่งถลันร้องวะแหวๆ
- ข้อ 1,2,3 ให้อารมณ์เศร้า ๆ เหงา ๆ
- ข้อ 1 สังเกตจาก ?ให้หวั่นหวาด?
- ข้อ 2 สังเกตจาก ?วิเวก?
- ข้อ 4 สังเกตจาก ?คราง?
J ข้อ 3 ให้อารมณ์ตกกะใจ สังเกตจาก ?ร้องวะแหวๆ? จึงต่างกับข้ออื่น
76. ตอบ 2 ข้อ ข.
- ข้อ 1 เปรียบความรักว่าร้อนเหมือน ?ไฟฟอน หมื่นไหม้?
- ข้อ 2 เปรียบการจากแล้วไม่พบว่า คือ ?ไฟ?
- ข้อ 3 เปรียบใจว่าปาน ?เพลิงกัลป์ (ไฟล้างโลก)?
- ข้อ 4 เปรียบใจว่า ?โดนไฟสุม ไหม้นิจนิรันดร์?
จะเห็นว่าข้อ 1,3,4 เปรียบด้วยถ้อยคำรุนแรง ส่วนข้อ 2 ถ้อยคำดูไม่รุนแรงเท่าข้ออื่นๆ
77. ตอบ 3 ข้อ ค.
- คำประพันธ์ที่ยกมาใช้ภาพพจน์(เปรียบเทียบ) แบบ ?อุปมา? สังเกตจาก ?เพียง?
- ข้อ 1 เปรียบแบบอุปมา สังเกตจาก ?ยิ่ง?
- ข้อ 2 เปรียบแบบอุปลักษณ์ สังเกตจาก ?คือ?
] - ข้อ 3 เปรียบแบบอุปมา สังเกตจาก ?ปาน?
- ข้อ 4 เปรียบแบบอติพจน์ สังเกตจาก ?ไหม้จิตต์เป็นนิรันดร์?
จึงมีอยู่ 2 ข้อ ที่เข้าข่าย คือ 1 กับ 3
แต่ข้อ 1 ?ยิ่ง? เป็น การเปรียบมากกว่า ไม่เหมือนข้อ 3 ปาน ซึ่งเปรียบเท่ากันจึงตรงกับโจทย์
ที่ให้มา (เพียง = เปรียบเทียบ ) ข้อ 3 จึงดีที่สุด
78. ตอบ 3 ลดผลของกรรมที่ทำมาในอดีต
- โจทย์ถาม ข้อใด ?ไม่ใช่? ผลจากอโลภะ อโทสะ อโมหะ คือไม่โลภ ไม่โกรธ และไม่หลง นั่นคือ
การตัดหรือละกิเลศ
ข้อ 1 วิญญูชน (ผู้รู้) สรรเสริญ (เป็นประโยชน์จากการตัดกิเลศ)
ข้อ 2 สกัดกั้นความชั่วที่จะเกิดขึ้น (เป็นประโยชน์จากการตัดกิเลศ)
ข้อ 4 สร้างประโยชน์และความสุข (เป็นประโยชน์จากการตัดกิเลศ)
Jการตัดกิเลศ มุ่งตัดอกุศลกรรมที่จะเกิด ไม่ใช่ไปลดกรรม ?ในอดีต? เพราะในศาสนาพุทธ
ถือว่า สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ถือว่าเกิดขึ้นจะแก้ไขไม่ได้แล้ว
79. ตอบ 4 แดงศึกษาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในการทำรายงาน
- หลักกาลามสูตร สอนว่าก่อนเชื่อให้ใช้วิจารณญาณก่อนพูดง่ายๆควรเชื่ออย่างมีเหตุผล
- ข้อ 1 เชื่อตามคติโบราณ (ยังไม่ได้แสดงการใช้วิจารณญาณ)
- ข้อ 2 เชื่อตามใบปลิว (ยังไม่ได้แสดงการใช้วิจารณญาณ)
- ข้อ 3 เชื่อตามคำชักชวนของเพื่อน (ยังไม่ได้แสดงการใช้วิจารณญาณ)
Jส่วนข้อ 4 การทำรายงานโดยศึกษาจากหลักฐาน ถือว่ามีการใช้เหตุผลก่อน จึงถือว่าปฏิบัติ
ตามหลักกาลาสูตรที่สุดแล้ว
80. ตอบ 2 ข้อ ข.
- วัฒนธรรม หมายถึง สิ่งที่คนสร้างขึ้น
- ข้อ 1 มีวัฒนธรรม คือ ?สามโคกเป็นเมืองตรี?
- ข้อ 3 มีวัฒนธรรม คือ ?ศาลเจ้า, บายศรี?
- ข้อ 4 มีวัฒนธรรม คือ ?บ้านงิ้ว?
- ข้อ 2 เป็นบรรยายถึงธรรมชาติไม่มีการกล่าวถึงวัฒนธรรม (สิ่งที่คนสร้างขึ้น)
81. ตอบ 2 ข้อ ข.
- ข้อ 1 มีการแสดงอารมณ์ สังเกตจาก ?โศกถวิล?
- ข้อ 3 มีการแสดงอารมณ์ สังเกตจาก ?ปลงจิต?
- ข้อ 4 มีการแสดงอารมณ์ สังเกตจาก ?ขามขามใจ?
แนวข้อสอบกพ2555 ---> แนวข้อสอบกพ2555พร้อมเฉลย รวมพลคนสอบครู 2555 รวมพลคนสอบบรรจุครู 2555